เมื่อเรารู้วิธีการเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คเข้าใจแบบคร่าวๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การนับแต้มในเกมไพ่แบล็คแจ็ค ซึ่งบางคนที่เป็นนักพนันมือใหม่สุดๆ อาจจะยังนับแต้มไม่ยังไม่ขาด ฉะนั้นวันนี้เราจะอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการนับแต้มหน้าไพ่ในเกมแบล็คแจ็คให้เข้าใจเพิ่มมากขึ้น ดังนี้
วิธีการนับแต้มในเกมแบล็คแจ็ค
- แต้มหน้าไพ่ตัวเลข 2 , 3 , 4 ไปจนถึง 10 นับแต้มตามตัวเลข
- หน้าไพ่ที่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ J , Q , K นับเป็น 10 แต้ม
- ส่วนไพ่ A นับเป็น 11 แต้ม หรือจะนับเป็น 1 แต้มก็ได้ แล้วแต่สถานการณ์ โดยเราสามารถเลือกได้เอง เช่น เมื่อได้ไพ่ K กับ A เราจะให้ A เท่ากับ 11 แต้ม เพื่อรวมกับ K จะได้ครบ 21 แต้มพอดี หรือได้ไพ่ 9 กับ 5 กับ 4 และ A เราจะให้ A แทน 1 แต้ม เมื่อรวมกันจะได้ 20 แต้ม
อัตราการจ่ายเงินในเกมแบล็คแจ็ค
ผู้ชนะ มือ จ่าย
เจ้ามือ แบล็คแจ็ค ไม่จ่าย
ผู้เล่น แบล็คแจ็ค 3 : 2(มือแรก)
ผู้เล่น ชนะอื่นๆ 1 : 1
เจ้ามือ ประกันภัย 2 : 1
เสมอ มืออื่นๆ คืนเงิน
จะเห็นว่าการนับแต้มไพ่เกมแบล็คแจ็คนั้นแสนง่ายมากๆ แต่อย่าลืมไปว่า หากการเรียกไพ่แล้วแต้มเกิน 21 แต้ม ถือว่าเราแพ้ทันที ไม่จำเป็นต้องเปิดไพ่เจ้ามือเลย แม้ว่าไพ่ในมือของเจ้ามือจะมีแต้มเท่าไหร่ จะน้อยหรือมากก็ตาม เราหมดสิทธิ์ที่จะเป็นผู้ชนะทันที แถมเสียเงินอีกด้วย
ดังนั้นการเล่นเดิมพันเกมไพ่แบล็คแจ็คต้องเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ให้มากๆ เพราะเทคนิคเหล่านั้นสามารถช่วยให้เราได้มีโอกาสชนะเดิมพันมากขึ้นนั่นเอง
เมื่อหลายปีที่ผ่านมา นักพนัน คาสิโนออนไลน์ มีข้อจำกัดในการหาประสบการณ์การเล่นเกมพยัยของพวกเขาในการเดินทางไปที่เมืองลาสเวกัสหรือแอตแลนติกซิตี หากคุณไม่ได้อาศัยอยู่ใกล้กับสถานที่เหล่านี้ คุณต้องจองแพ็คเกจเที่ยวบินและที่พักที่มีราคาค่อนข้างแพงเพื่อมาสัมผัสกับความสนุกของเกมในคาสิโน เช่น โป๊กเกอร์ รูเล็ต หรือ แบล็คแจ็ค เมื่อเวลาผ่านไปสถานที่หลาย ๆ แห่งได้ตัดสินใจที่จะยกเลิกกฎระเบียบของ การเล่นเกมพนัน บางข้อและเปิด คาสิโน สำหรับ เกมสล็อต และ เกมไพ่ การปฏิวัติที่แท้จริงในเกมเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังจากที่ คาสิโนออนไลน์ เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น
เกมสล็อต เป็นอีกหนึ่งเกมการแข่งขันที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นเกมที่เล่นง่าย อาจไม่ต้องใช้ทักษะใดๆ ใน การเล่นเดิมพัน ก็สามารถเพิ่มความตื่นเต้น ได้จากรูปแบบของธีมที่มีหลากหลายแบบให้คุณได้เลือกมากถึงหลักร้อยธีมเลยทีเดียว